สีผมฮิตในไทยในปัจจุบัน (ปี 2023) ยังคงเป็นโทนสีธรรมชาติและโทนสีสว่าง โดยสีผมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่

  • สีน้ำตาลเทา เป็นสีผมที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องหลายปี เนื่องจากเป็นสีที่ขับผิวและดูเป็นธรรมชาติ
  • สีบลอนด์ เป็นสีผมที่ให้ความสดใสและมีชีวิตชีวา มีหลายเฉดให้เลือกตามความชอบ เช่น สีบลอนด์อ่อน สีบลอนด์ทอง สีบลอนด์เข้ม เป็นต้น
  • สีแดง เป็นสีผมที่ให้ความโดดเด่นและดึงดูดสายตา มีหลายเฉดให้เลือกตามความชอบ เช่น สีแดงไวน์ สีแดงเบอร์กันดี สีแดงสด เป็นต้น
  • สีชมพู เป็นสีผมที่ให้ความหวานและน่ารัก มีหลายเฉดให้เลือกตามความชอบ เช่น สีชมพูอ่อน สีชมพูพาสเทล สีชมพูเข้ม เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีสีผมอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น สีฟ้า สีเขียว สีม่วง เป็นต้น โดยสีผมเหล่านี้มักได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบแฟชั่นและต้องการความแตกต่าง

สำหรับสีผมที่เหมาะกับผู้ชายนั้น ยังคงเป็นโทนสีธรรมชาติและโทนสีสว่างเช่นเดียวกัน โดยสีผมที่ได้รับความนิยม ได้แก่

  • สีเทาหม่น เป็นสีผมที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องหลายปี เนื่องจากเป็นสีที่ขับผิวและดูเป็นธรรมชาติ
  • สีน้ำตาล เป็นสีผมที่คลาสสิกและดูสุภาพ
  • สีแดง เป็นสีผมที่ให้ความโดดเด่นและดึงดูดสายตา
  • สีฟ้า เป็นสีผมที่ให้ความเท่และทันสมัย

อย่างไรก็ตาม การเลือกสีผมที่เหมาะสมนั้น ควรพิจารณาจากสีผิว รูปหน้า และสไตล์การแต่งตัว เพื่อให้ได้ลุคที่สวยและดูดีมากที่สุดในปัจจุบัน (ปี 2023) ยังคงเป็นโทนสีธรรมชาติและโทนสีสว่าง โดยสีผมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่

  • สีน้ำตาลเทา เป็นสีผมที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องหลายปี เนื่องจากเป็นสีที่ขับผิวและดูเป็นธรรมชาติ
  • สีบลอนด์ เป็นสีผมที่ให้ความสดใสและมีชีวิตชีวา มีหลายเฉดให้เลือกตามความชอบ เช่น สีบลอนด์อ่อน สีบลอนด์ทอง สีบลอนด์เข้ม เป็นต้น
  • สีแดง เป็นสีผมที่ให้ความโดดเด่นและดึงดูดสายตา มีหลายเฉดให้เลือกตามความชอบ เช่น สีแดงไวน์ สีแดงเบอร์กันดี สีแดงสด เป็นต้น
  • สีชมพู เป็นสีผมที่ให้ความหวานและน่ารัก มีหลายเฉดให้เลือกตามความชอบ เช่น สีชมพูอ่อน สีชมพูพาสเทล สีชมพูเข้ม เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีสีผมอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น สีฟ้า สีเขียว สีม่วง เป็นต้น โดยสีผมเหล่านี้มักได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบแฟชั่นและต้องการความแตกต่าง

สำหรับสีผมที่เหมาะกับผู้ชายนั้น ยังคงเป็นโทนสีธรรมชาติและโทนสีสว่างเช่นเดียวกัน โดยสีผมที่ได้รับความนิยม ได้แก่

  • สีเทาหม่น เป็นสีผมที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องหลายปี เนื่องจากเป็นสีที่ขับผิวและดูเป็นธรรมชาติ
  • สีน้ำตาล เป็นสีผมที่คลาสสิกและดูสุภาพ
  • สีแดง เป็นสีผมที่ให้ความโดดเด่นและดึงดูดสายตา
  • สีฟ้า เป็นสีผมที่ให้ความเท่และทันสมัย

อย่างไรก็ตาม การเลือกสีผมที่เหมาะสมนั้น ควรพิจารณาจากสีผิว รูปหน้า และสไตล์การแต่งตัว เพื่อให้ได้ลุคที่สวยและดูดีมากที่สุด

อ่านต่อได้ที่ สีผมฮิต 2023

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รูปภาพ
ดอกทานตะวันสามารถแบ่งประเภทได้ตามลักษณะต่างๆ ดังนี้ ตามขนาดของต้น แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ทานตะวันยักษ์ (Giant Sunflower) มีลำต้นสูงตั้งแต่ 1.5 เมตรขึ้นไป ดอกมีขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30-40 เซนติเมตร ทานตะวันแคระ (Dwarf Sunflower) มีลำต้นสูงไม่เกิน 1 เมตร ดอกมีขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10-20 เซนติเมตร ตามสีของดอก แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ทานตะวันสีเหลือง (Yellow Sunflower) เป็นพันธุ์ทานตะวันที่พบได้ทั่วไป ดอกมีสีเหลืองสดใส ทานตะวันสีอื่นๆ (Other Color Sunflower) มีสีสันหลากหลาย เช่น สีส้ม สีแดง สีชมพู สีขาว สีม่วง เป็นต้น ตามวัตถุประสงค์ในการปลูก แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ทานตะวันเพื่อการบริโภค (Consumable Sunflower) มีเมล็ดขนาดใหญ่ เปลือกหนา ไม่ติดกับเนื้อในเมล็ด นิยมนำไปรับประทานเป็นอาหารว่างหรือทำขนมหวาน ทานตะวันเพื่อผลิตน้ำมัน (Oilseed Sunflower) มีเมล็ดขนาดเล็ก เปลือกติดกับเนื้อในเมล็ด นิยมนำไปผลิตน้ำมันพืช นอกจากนี้ ยังมีพันธุ์ทานตะวันลูกผสม (Hybrid Sunflower) ที่มีลักษณะพิเศษ เช่น ดอกมีขนาดใหญ่ สีสันสดใส ทนทานต่อโรคและแมลง เป็นต้น ตัวอย่า
อ่านเพิ่มเติม

ควรทาแป้งให้เด็กตอนไหนดี

รูปภาพ
  ควรทาแป้งให้เด็กเมื่อผิวเด็กแห้งและสะอาด โดยทาแป้งบางๆ บริเวณที่สัมผัสกับผ้าอ้อม เช่น ก้น ขาหนีบ อวัยวะเพศ หน้าท้อง เป็นต้น เพื่อดูดซับความชื้นและป้องกันผื่นผ้าอ้อม ช่วงเวลาที่ควรทาแป้งให้เด็ก ได้แก่ เปลี่ยนผ้าอ้อม หลังอาบน้ำ ก่อนใส่เสื้อผ้า ก่อนออกไปข้างนอก อย่างไรก็ตาม แป้งเด็กอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้ จึงควรทาแป้งให้เด็กอย่างระมัดระวัง โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ เลือกแป้งเด็กที่ปราศจากทัลคัม ทาแป้งในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงการทาแป้งที่ใบหน้าหรือบริเวณที่มีแผล ไม่ให้ลูกถือกระป๋องแป้งเขย่าเล่นหรือทาเอง สำหรับเด็กแรกเกิด ควรทาแป้งเด็กเมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป หรือเมื่อเด็กเริ่มใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เนื่องจากผิวเด็กแรกเกิดยังบอบบางและอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย นอกจากนี้ เด็กที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด ควรหลีกเลี่ยงการใช้แป้งเด็ก เนื่องจากอาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้หรือหอบหืดได้ หากทาแป้งแล้วเด็กมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก ไอ จาม ผิวแดง หรือมีผื่นขึ้น ควรหยุดใช้แป้งเด็กและปรึกษาแพทย์ สรุปได้ว่า ควรทาแป้งให้เด็กเมื่อผิวเด็กแห้งและสะอาด โดยทาแป้งบางๆ
อ่านเพิ่มเติม

วิธีดูแลดอกลิลลี่

รูปภาพ
  ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ที่สวยงามและได้รับความนิยมปลูกประดับบ้าน การดูแลดอกลิลลี่ให้ออกดอกสวยและสมบูรณ์นั้นสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงทำตามเคล็ดลับต่อไปนี้ สภาพแวดล้อม ดอกลิลลี่ชอบอากาศที่เย็นและชื้น อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตคือ 20-32 องศาเซลเซียส ไม่ควรให้โดนแสงแดดโดยตรง ควรปลูกไว้ในบริเวณที่มีแสงแดดรำไร หรือปลูกไว้ในร่ม ดิน ดอกลิลลี่ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ควรผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินด้วย เพื่อช่วยเพิ่มธาตุอาหารให้กับต้น การให้น้ำ ดอกลิลลี่ต้องการน้ำปริมาณมาก ในช่วงที่ต้นกำลังเจริญเติบโตควรรดน้ำวันละครั้ง ในช่วงที่ต้นออกดอกควรรดน้ำให้มากขึ้นกว่าเดิม ระวังอย่าให้ดินแฉะจนเกินไป เพราะอาจทำให้ต้นเน่าได้ การให้ปุ๋ย ควรให้ปุ๋ยบำรุงดอกลิลลี่เดือนละครั้ง โดยใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-16 หรือ 20-20-20 ผสมน้ำรดต้น การกำจัดวัชพืช ควรกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบ ๆ ต้นลิลลี่ออกเป็นประจำ เพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชแย่งอาหารและน้ำจากต้น การป้องกันโรคและแมลง โรคและแมลงที่มักพบในดอกลิลลี่ ได้แก่ โรคราแป้ง โรคราน้ำค้าง และเพลี้ยอ่อน ควรหมั่นสังเกตต้นลิลลี่ หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดทันที การเก็บหัวลิลลี่
อ่านเพิ่มเติม