ดอกทานตะวันสามารถแบ่งประเภทได้ตามลักษณะต่างๆ ดังนี้
-
ตามขนาดของต้น แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
- ทานตะวันยักษ์ (Giant Sunflower) มีลำต้นสูงตั้งแต่ 1.5 เมตรขึ้นไป ดอกมีขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 30-40 เซนติเมตร
- ทานตะวันแคระ (Dwarf Sunflower) มีลำต้นสูงไม่เกิน 1 เมตร ดอกมีขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10-20 เซนติเมตร
-
ตามสีของดอก แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
- ทานตะวันสีเหลือง (Yellow Sunflower) เป็นพันธุ์ทานตะวันที่พบได้ทั่วไป ดอกมีสีเหลืองสดใส
- ทานตะวันสีอื่นๆ (Other Color Sunflower) มีสีสันหลากหลาย เช่น สีส้ม สีแดง สีชมพู สีขาว สีม่วง เป็นต้น
-
ตามวัตถุประสงค์ในการปลูก แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
- ทานตะวันเพื่อการบริโภค (Consumable Sunflower) มีเมล็ดขนาดใหญ่ เปลือกหนา ไม่ติดกับเนื้อในเมล็ด นิยมนำไปรับประทานเป็นอาหารว่างหรือทำขนมหวาน
- ทานตะวันเพื่อผลิตน้ำมัน (Oilseed Sunflower) มีเมล็ดขนาดเล็ก เปลือกติดกับเนื้อในเมล็ด นิยมนำไปผลิตน้ำมันพืช
นอกจากนี้ ยังมีพันธุ์ทานตะวันลูกผสม (Hybrid Sunflower) ที่มีลักษณะพิเศษ เช่น ดอกมีขนาดใหญ่ สีสันสดใส ทนทานต่อโรคและแมลง เป็นต้น
ตัวอย่างพันธุ์ทานตะวันที่นิยมปลูกในประเทศไทย ได้แก่
- พันธุ์ทานตะวันยักษ์ เช่น Skyscraper, American Giant Hybrid, Russian Mammoth
- พันธุ์ทานตะวันแคระ เช่น Teddy Bear, Lemon Queen, ProCut
- พันธุ์ทานตะวันสี เช่น Lemon Slices, Lemon Gem, Lemon Meringue
- พันธุ์ทานตะวันเพื่อการบริโภค เช่น Mammoth Russian, Big Smile, Grey Stripe
- พันธุ์ทานตะวันเพื่อผลิตน้ำมัน เช่น Russian Giant, Sunrich, Highsun
ดอกทานตะวันเป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย นอกจากจะมีความสวยสดงดงามแล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น ใช้เป็นอาหาร ผลิตน้ำมัน หรือเป็นพืชประดับ เป็นต้น
อ่านต่อได้ที่ : ประวัติดอกทานตะวัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น